2538–2541: Windows 95
ในวันที่ 24 สิงหาคม 2538 Microsoft ได้ออกวางจำหน่าย Windows 95 ซึ่งสามารถสร้างสถิติทำยอดขายได้ถึง 7 ล้านสำเนาในช่วงห้าสัปดาห์แรก นับเป็นการเปิดตัวที่ได้รับการกล่าวขานถึงมากที่สุดที่ Microsoft เคยทำมา สปอตโฆษณาทางโทรทัศน์ใช้เพลงของ Rolling Stones ที่ชื่อว่า "Start Me Up" ในการนำเสนอปุ่ม 'เริ่ม' ซึ่งเป็นปุ่มใหม่ ข่าวประชาสัมพันธ์พาดหัวขึ้นต้นว่า: “อยู่นี่ไง”

เดสก์ท็อป Windows 95
นี่คือยุคของแฟกซ์/โมเด็ม อีเมล โลกออนไลน์แบบใหม่ และเกมมัลติมีเดียที่ละลานตาและซอฟต์แวร์ทางการศึกษา Windows 95 มีการสนับสนุนอินเทอร์เน็ตในตัว การเชื่อมต่อเครือข่ายผ่านสายโทรศัพท์ และความสามารถใหม่ Plug and Play ที่ทำให้ติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิตยังมาพร้อมความสามารถด้านมัลติมีเดียขั้นสูง คุณลักษณะสำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบครบวงจร

วันเปิดตัว: Bill Gates แนะนำ Windows 95
ในช่วงเวลาที่มีการวางจำหน่าย Windows 95 ระบบปฏิบัติการ Windows รุ่นก่อนหน้าและ MS‑DOS มีการใช้งานอยู่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของพีซีที่มีอยู่ในโลก Windows 95 เป็นการปรับรุ่นให้กับระบบปฏิบัติการเหล่านี้ เมื่อต้องการเรียกใช้ Windows 95 คุณจำเป็นต้องมีพีซีที่มีตัวประมวลผล 386DX หรือที่สูงกว่า (ขอแนะนำ 486) และมี RAM อย่างน้อย 4 MB (ขอแนะนำ RAM 8 MB) เวอร์ชันอัปเกรดมีทั้งในรูปแบบฟลอปปีดิสก์และซีดีรอม โดยสามารถใช้งานได้ใน 12 ภาษา
Windows 95 เป็นเวอร์ชันแรกที่มีเมนู 'เริ่ม' แถบงาน ปุ่มย่อ ปุ่มขยาย และปุ่มปิดบนแต่ละหน้าต่าง

Windows 95
ในช่วงต้นปี 2533 ผู้ที่อยู่ในแวดวงเทคโนโลยีพูดถึงอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นเครือข่ายที่ประกอบขึ้นด้วยเครือข่ายต่างๆ ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ในปี 2538 Bill Gates ได้ออกบทความที่ชื่อว่า “The Internet Tidal Wave” และประกาศว่าอินเทอร์เน็ตเป็น “การพัฒนาที่สำคัญที่สุดตั้งแต่พีซีถือกำเนิดขึ้น”
ในฤดูร้อน ปี 2538 มีการออก Internet Explorer รุ่นแรก เบราว์เซอร์นี้ออกมาเพื่อร่วมประชันกับเบราว์เซอร์อื่นๆ ที่มีอยู่บน World Wide Web
เกร็ดน่าสนใจ: ในปี 2539 Microsoft วางจำหน่ายโปรแกรมจำลองการบินสำหรับ Windows 95 นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 14 ปี ที่สามารถใช้งานกับ Windows ได้
Windows 98 ที่วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2541 เป็น Windows เวอร์ชันแรกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ใช้ทั่วไป พีซีกลายเป็นอุปกรณ์ที่พบได้ทั่วไปในที่ทำงาน ที่บ้าน และร้านอินเทอร์เน็ตที่คุณสามารถออนไลน์ได้ก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด Windows 98 ได้รับการขนานนามว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ “ทำงานก็ได้ เล่นก็ดี”

เดสก์ท็อป Windows 98
Windows 98 ช่วยให้คุณสามารถค้นหาข้อมูลบนพีซีของคุณและบนอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น การปรับปรุงอื่นๆ ได้แก่ ความสามารถในการเปิดและการปิดโปรแกรมที่รวดเร็วขึ้น และการสนับสนุนการอ่านแผ่นดีวีดีและอุปกรณ์ Universal Serial Bus (USB) อีกสิ่งหนึ่งที่ปรากฏเป็นครั้งแรกก็คือ แถบ 'เปิดใช้งานด่วน' ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเปิดโปรแกรมได้โดยไม่ต้องเปิดเมนู 'เริ่ม' หรือค้นหาโปรแกรมบนเดสก์ท็อป

Windows 98
เกร็ดน่าสนใจ: Windows 98 เป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่สร้างจาก MS‑DOS
Windows Me
Windows Me ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานภายในบ้านมีการปรับปรุงคุณลักษณะเกี่ยวกับเพลง วิดีโอ และเครือข่ายภายในบ้านจำนวนมาก รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้มีความเสถียรมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
สิ่งที่ปรากฏเป็นครั้งแรก ได้แก่ System Restore ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สามารถย้อนการกำหนดค่าซอฟต์แวร์พีซีของคุณกลับไปยังวันที่หรือเวลาก่อนที่จะเกิดปัญหาได้ Movie Maker ทำให้ผู้ใช้มีเครื่องมือที่สามารถแก้ไข บันทึกและแบ่งปันวิดีโอภาพครอบครัวในแบบดิจิทัล และด้วยเทคโนโลยี Microsoft Windows Media Player 7 คุณจึงสามารถค้นหา จัดระเบียบ และเล่นสื่อดิจิทัลได้

สัมผัสประสบการณ์การรับชมสื่อผ่าน Windows Me
เกร็ดน่าสนใจ: หากจะพูดกันในเชิงเทคนิค Windows Me ถือเป็นระบบปฏิบัติการสุดท้ายของ Microsoft ที่ใช้โค้ดของ Windows 95 เป็นพื้นฐาน Microsoft ประกาศว่าผลิตภัณฑ์ระบบปฏิบัติการทั้งหมดในอนาคตจะทำงานบนเคอร์เนล Windows NT และ Windows 2000
Windows 2000 Professional ไม่ได้เป็นเพียงแค่การอัปเกรดจาก Windows NT Workstation 4.0 เท่านั้น แต่ยังออกแบบมาเพื่อแทนที่ Windows 95, Windows 98 และ Windows NT Workstation 4.0 ที่อยู่บนเดสก์ท็อปและแล็ปท็อปสำหรับธุรกิจทั้งหมด Windows 2000 สร้างโดยใช้โค้ด Windows NT Workstation 4.0 ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ายอดเยี่ยมเป็นพื้นฐาน และมีการปรับปรุงด้านความเสถียร ความสะดวกในการใช้งาน ความสามารถในการใช้งานอินเทอร์เน็ต และรองรับการใช้งานบนคอมพิวเตอร์แบบพกพา

Windows 2000 Professional
นอกจากจะปรับปรุงการทำงานในส่วนต่างๆ แล้ว Windows 2000 Professional ยังรองรับฮาร์ดแวร์ Plug and Play แบบใหม่หลายชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์การเชื่อมต่อเครือข่ายและระบบไร้สายขั้นสูง อุปกรณ์ USB อุปกรณ์ IEEE 1394 และอุปกรณ์อินฟราเรด ซึ่งช่วยให้การติดตั้งฮาร์ดแวร์เป็นเรื่องง่าย
เกร็ดน่าสนใจ: การทดสอบที่กดดันทุกคืนของ Windows 2000 ในระหว่างการพัฒนาเทียบได้กับเวลาการทำงานสามเดือนบนคอมพิวเตอร์ 1,500 เครื่อง
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2544 มีการวางจำหน่าย Windows XP โฉมใหม่ ซึ่งเน้นไปที่ฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้จริงและศูนย์รวมข้อมูลความช่วยเหลือและวิธีใช้แบบครบวงจร โดยสามารถใช้งานได้ใน 25 ภาษา นับแต่ช่วงกลางปี 2513 จนถึงการวางจำหน่าย Windows XP มีพีซีประมาณ 1 พันล้านเครื่องทั่วโลกที่ติดตั้งโปรแกรมนี้
ข้อดีของ windows XP
1. สวย
2. ใช้งานง่าย
3. ค่อนข้างเสถียณ
4. มีโปรแกรมที่ Support เยอะ
5. มี Diver ต่าง ติดมากับ Windows XP ค่อนข้างเยอะ
6. ถ้าลง Windows ใหม่ ก็ไม่ต้องห่วงเรื่อง Driver On board ว่าจะทำให้ภาพ ไม่สวยเพราะ Windows XP จะพยายามหามาให้ ถ้าไม่มีภาพหน้าจอก็ยังสวยอยู่ ค่อยหา Driver มาลงตอนหลังก็ได้
ข้อเสีย windows XP
1. ถ้า Joy Domain จะ log in / Log off ช้ามาก
2. เปลือง Memory เพราะ Application เยอะมากๆ
3. แม้ไม่ Joy Domain ก็ ใช้เวลา ในการ Load windows นานกว่า
4. Virus จะโจมตี Windows XP มากว่าตัวอื่นๆ

เดสก์ท็อป Windows XP Home Edition
สำหรับ Microsoft ระบบปฏิบัติการ Windows XP กำลังจะกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขายดีอันดับหนึ่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ด้วยความรวดเร็วและความเสถียรของระบบ การเข้าออกเมนู 'เริ่ม' แถบงาน และแผงควบคุมสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น มีการตื่นตัวเรื่องไวรัสคอมพิวเตอร์และแฮกเกอร์มากขึ้น แต่ก็มีการเปิดให้ดาวน์โหลดอัปเดตระบบความปลอดภัยทางออนไลน์ซึ่งช่วยลดความกลัวได้ระดับหนึ่ง ผู้ใช้เริ่มเข้าใจถึงคำเตือนเกี่ยวกับเอกสารแนบที่น่าสงสัยและไวรัส และเริ่มเห็นความสำคัญของบริการช่วยเหลือและวิธีใช้มากขึ้น
Windows XP Home Edition มีการออกแบบด้านภาพให้ดูสบายตาและเรียบง่าย ทำให้สามารถเข้าถึงคุณลักษณะที่ใช้งานบ่อยได้ง่ายขึ้น Windows XP ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานภายในบ้านมาพร้อมการปรับปรุงในส่วนต่างๆ เช่น Network Setup Wizard, Windows Media Player, Windows Movie Maker และความสามารถด้านภาพถ่ายดิจิทัลขั้นสูง
Windows XP Professional นำรากฐานที่แข็งแกร่งของ Windows 2000 มาเพิ่มความเสถียร ความปลอดภัย และประสิทธิภาพการทำงานให้กับพีซีเดสก์ท็อป นอกเหนือจากรูปลักษณ์ใหม่แล้ว Windows XP Professional ยังมาพร้อมคุณลักษณะต่างๆ สำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ในธุรกิจและการใช้คอมพิวเตอร์ขั้นสูงที่บ้าน การสนับสนุนเดสก์ท็อประยะไกล การเข้ารหัสระบบไฟล์ รวมถึงคุณลักษณะการคืนค่าระบบและการเชื่อมต่อเครือข่ายขั้นสูงด้วย การปรับปรุงที่สำคัญสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์แบบพกพา ได้แก่ การสนับสนุนเครือข่ายไร้สาย 802.1x, Windows Messenger และ Remote Assistance

กล่อง Windows XP Professional
มี Windows XP หลายรุ่นในช่วงปีเหล่านี้
- Windows XP รุ่น 64 บิต (2001) เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นแรกของ Microsoft สำหรับตัวประมวลผล 64 บิตที่ออกแบบมาสำหรับการทำงานกับหน่วยความจำขนาดใหญ่และโปรเจ็กต์ต่างๆ เช่น ลักษณะพิเศษของภาพยนตร์ ภาพเคลื่อนไหวสามมิติ โปรแกรมทางวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์
- Windows XP Media Center Edition (2002) เหมาะสำหรับการใช้งานและการให้ความบันเทิงภายในบ้าน คุณสามารถท่องอินเทอร์เน็ต ดูรายการสด เพลิดเพลินกับคอลเลกชันเพลงและวิดีโอดิจิทัล และดูดีวีดีได้
- Windows XP Tablet PC Edition (2002) เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์ที่รับข้อมูลแบบลายมือ แท็บเล็ตพีซีจะมีปากกาดิจิทัลที่ใช้ร่วมกับระบบการจดจำลายมือ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้เมาส์หรือแป้นพิมพ์ได้ด้วย
ข้อดีของ windows XP
1. สวย
2. ใช้งานง่าย
3. ค่อนข้างเสถียณ
4. มีโปรแกรมที่ Support เยอะ
5. มี Diver ต่าง ติดมากับ Windows XP ค่อนข้างเยอะ
6. ถ้าลง Windows ใหม่ ก็ไม่ต้องห่วงเรื่อง Driver On board ว่าจะทำให้ภาพ ไม่สวยเพราะ Windows XP จะพยายามหามาให้ ถ้าไม่มีภาพหน้าจอก็ยังสวยอยู่ ค่อยหา Driver มาลงตอนหลังก็ได้
ข้อเสีย windows XP
1. ถ้า Joy Domain จะ log in / Log off ช้ามาก
2. เปลือง Memory เพราะ Application เยอะมากๆ
3. แม้ไม่ Joy Domain ก็ ใช้เวลา ในการ Load windows นานกว่า
4. Virus จะโจมตี Windows XP มากว่าตัวอื่นๆ
เกร็ดน่าสนใจ: Windows XP เกิดจากการคอมไพล์โค้ดจำนวน 45 ล้านบรรทัดเข้าด้วยกัน


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น